มาอัพสกิลกับหลักสูตร AI Skills for Everyone
จะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ ไม่ใช้ AI ในการทำงาน?
เราต้องรู้อะไรเกี่ยวกับ AI บ้าง เพื่อก้าวทันโลกได้

วันนี้ตื่นเช้ามาเรียน AI Skills for Everyone กับโครงการ Microsoft AI Skills Training Series ของทาง Microsoft นั่นเอง โดยหลักสูตรที่เราเรียนในวันนี้นั้นเป็นหลักสูตรทักษะด้าน AI สำหรับบุคคลทั่วไป สอนโดยอาจารย์เจนนี่ ดร.ศิวพร ลินทะลึก
ในห้องเรียนส่วนใหญ่เลยเป็นคุณครู และหลากหลายอาชีพเลย หลาย ๆ คนอาจจะรู้แล้ว บางคนอาจจะยังไม่รู้ ทางนี้สรุปคร่าว ๆ ให้ฟังว่าเรียนอะไรบ้างเนอะ
ปล. ในนี้มีใส่ประสบการณ์ และความเห็นส่วนตัวของเราใส่เพิ่มลงไปนิดนึง เพื่อให้คนเห็นภาพมากขึ้นเนอะ
ก่อนเรียนมีแนะนำโครงการจากคุณช้างก่อนเลย เป็นโครงการการส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะการใช้ AI ซึ่งมีหลาย ๆ ส่วนด้วยกัน

- AI Skills Navigator: platform online portal ที่เข้าไปค้นหาข้อมูลที่รวมหลักสูตร AI กว่า 200 module หาเส้นทางที่เหมาะสม https://aka.ms/AISkillsNavigatorTH
- Microsoft Learn and LinedIn Learning: คนที่รู้ว่าเริ่มเลือกหัวข้ออะไรบ้าง และมี achieve badge print ออกมาเป็นใบ certificate
- AI video and course ดูได้จาก youtube Microsoft Thailand
- AI Training : มีการจัดอบรมต่าง ๆ
- Microsoft Credentials: นำความรู้ที่ได้มาวัดทักษะ สอบ มี 2 แบบ คือ
- Credentials แบบดั้งเดิมตามตำแหน่งงาน เช่น dev, data sci, ai ซึ่งมีค่าใช้จ่าย แต่มีแจกสิทธิ์สอบ
- Applied Skill แบบใหม่วัดทดสอบตามสถานการณ์ต่าว ๆ เช่น เจนรูป, up data ขึ้น cloud
- กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น
เกริ่นนำ
AI ไม่ใช่คู่แข่ง ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาเป็นผู้ช่วยเรามากกว่า เหมือนเป็น copilot (อ่ะทางนี้ช่วยเข้า Microsoft Copilot 1 ที)
การเข้ามาของ AI นั้น ทำให้คนทำงานเร็วขึ้น เพราะประหยัดเวลา และมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างพ่อค้าแม่ค้าใช้ AI มาช่วยเขียน caption ขายของ วางแผนการทำ content และทำโปสเตอร์ขายของได้เองโดยไม่กี่คลิก ส่วนคุณครูใช้ AI คิดกิจกรรม ช่วยออกข้อสอบ ทำแบบประเมิน
ถ้าไม่เริ่มใช้ AI จะเกิดอะไรขึ้น?
- ประสิทธิภาพการทำงานอาจจะตามหลังคนอื่น: AI ทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้น
- ความคิดสร้างสรรค์อาจถูกจำกัด: เป็นเครื่องขยายไอเดีย คนไม่ใช้ AI อาจจะติดกับวิธีคิดแบบเดิม ๆ
- เสี่ยงต่อการถูกแทนที่ ถูกแทนที่โดยคนที่ใช้ AI มากกว่า ถึงแม้มีทักษะความรู้ในด้านวิชาชีพเท่ากันก็ตาม และเราต้องมีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างรวดเร็วด้วย เพราะเราอยู่ในยุคที่ AI เปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็วมาก ๆ แบบเปลี่ยนรายวันเลย
คนไม่ใช้ AI ไม่ได้ผิดอะไร แต่ช้ากว่าคนอื่นในยุคที่ technology เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นมาก ๆ การเริ่มต้นใช้อาจจะเริ่มบางตัวที่เหมาะสมกับ use case ของเรา พอรู้หลักการก็นำไปต่อยอดตัวอื่น ๆ ได้
พื้นฐานความเข้าใจ Generative AI
AI คืออะไร? ย่อมาจาก Artificial Intelligence ก็คือปัญญาประดิษฐ์ แปลไทยเป็นไทยก็คือ มนุษย์พยายามประดิษฐ์ปัญญาให้กับเครื่องจักร หรือคอมพิวเตอร์นั่นเอง
จะมี AI เฉพาะด้านที่มีมานานแล้ว คนทำต้องมีความรู้ความสามารถในการเขียนโปรแกรม เช่น
- Face Recognition (การจดจำใบหน้า)
- Natural Language Processing (การเข้าใจภาษาธรรมชาติ) เช่น chatbot AI ต่าง ๆ
- Chess AI (การเล่นหมากรุก)
- AI สำหรับงานอุตสาหกรรม: robot ต่าง ๆ ในโรงงาน
- AI สำหรับธุรกิจ
และ Generative AI คือ AI ที่ถูกเทรนข้อมูล หรือถูกสอน จากข้อมูลมหาศาล แล้วสั่งให้เราสร้างอะไร ทำได้หลายอย่างเลย เช่น
- การสร้างข้อความ (Text Generation)
- การสร้างภาพ (Image Generation)
- การแต่งเพลง (Music Composition)
พื้นฐานความเข้าใจและการใช้งาน Microsoft Copilot
Microsoft Copilot คือ Generative AI ที่เป็น LLM (Large Language Model) ของ Microsoft แหละ สามารถใช้งานแบบส่วนตัว หรือแบบองค์กรก็ได้นะ
สามารถใช้งาน Microsoft Copilot ได้หลายที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวเว็บเขา, บน Windows OS มีตัว Microsoft Copilot ฝังมาด้วย เรียกใช้งานตรงกลางจอเลย, Microsoft Edge (browser), Microsoft Bing
ถามว่าไม่ login ใช้ได้ไหม? ใช้ได้ แค่ login แล้วมันเก็บประวัติของเรา มันเข้าใจ context ที่เราเคยคุยกัน แล้วคุยต่อได้เลย
การใช้งาน Microsoft Copilot ไม่ได้ยากเลย แต่ที่ยากกว่าคือ prompt แล้วมันคืออะไรล่ะ?
prompt
คือ ข้อความคำสั่งจาก uesr ที่สั่งให้ AI ทำอะไรบางอย่างให้กับเรา
แต่ละคนมีโครงสร้างการเขียน prompt ต่างกัน แต่ของอาจารย์เจนนี่มีประมาณนี้
- กำหนดบทบาทให้ AI
- ระบุวัตถุประสงค์
- ให้รายละเอียด
- ใช้โครงสร้างที่ชัดเจน
- ระบุภาษา หรือสไตล์
- คำถามเฉพาะเจาะจง
- ขอบเขตจำกัด
ถ้าอ่านช่องแชทจะเห็นที่คุณช้างส่ง ส่วนผสมของ Prompt ที่ดี

- Goal หรือเป้าหมาย: ต้องการคำตอบแบบไหนจาก Copilot
- Context หรือบริบท: ทำไมถึงต้องการคำตอบนี้และใครมีส่วนเกี่ยวข้อง
- Source หรือแหล่งที่มา: Copilot ควรใช้แหล่งข้อมูลหรือตัวอย่างใด
- Expectations หรือความคาดหวัง: Copilot ควรตอบสนองอย่างไรให้ตรงตามความคาดหวังได้ดีที่สุด
รู้สึกเขียน prompt ยากจัง ยังมีสิ่งที่เรียกว่า Copilot Prompt Gallery คอยช่วยเราอยู่นะ
Generative AI เก่งได้ด้วยอะไร?
เก่งด้วยการเทรนผ่านข้อมูลเนอะ สมมุติเราเทรนรูปหมา แมว วัว กระต่าย และถามมันว่ารูปแมวอันนี้คืออะไร AI ก็ต้องตอบว่าแมวเนอะ เพราะได้รับการเรียนรู้มาจากฐานข้อมูล และถ้าใส่รูปคนเข้าไปล่ะ AI จะตอบว่าอะไร? มันตอบตามฐานข้อมูลที่มี ตามสิ่งที่มันได้เรียนรู้มาก ซึ่งสามารถตอบอะไรก็ได้ ก็คือตอบมั่วนั่นเอง อยู่ที่ว่ารูปนั้นเหมือนอะไร


จากนั้นมีให้ลองเล่นตัว Microsoft Copilot แปปนึง


Use Case การใช้งาน แบบคร่าว ๆ
- ช่วยคิดบทพูด ให้ดูสละสลวยขึ้น
- ช่วยคิดแคปชั่น มาพร้อม emoji แบบน่ารัก และหลายคนใช้ให้มันบอก hashtag ที่ควรใส่ในโพสด้วย
- ช่วยแต่งเพลง เช่น อยากแต่งเพลงให้ความรู้ แต่เราไม่เคยแต่งเพลง ก็ให้ AI แต่ง
- ช่วยแปลภาษา ดีกว่า translator เพราะว่า AI ทำความเข้าใจบริบท และตอบคำถามให้เรา เช่น ลาบอกไก่ อ่านว่า ลาบ-อก-ไก่ แต่ translator อ่านว่า ลา-บอก-ไก่

- ช่วยเขียนโครงการ
- ช่วยเขียน blog
- ช่วยสร้าง avatar หรือ ช่วยสร้างภาพ ตอนนี้สามารถ generate ภาพได้แล้ว
- ช่วยอธิบายภาพ วิเคราะห์กราฟยาก ๆ ภาพยาก ๆ ให้เราเข้าใจมากขึ้น
- ช่วยสรุปข่าว เช่น ไม่อยากอ่านข่าวทั้งหมด เปิดเว็บข่าวบน Microsoft Edge กดสัญลักษณ์ Copilot อยู่มุมขวาบน แล้วบอกว่าสรุปข่าวให้หน่อย

- ช่วยสรุปวิดีโอ
- ช่วยคัดเลือกคนเข้าทำงาน หรือช่วยคัดเลือกทรัพยากรบุคคล อันนี้ระวังการเปิดเผย data ในการใช้บน AI อาจจะละเมิด PDPA เราอาจจะทำ persona คนนั้น ๆ มาใหม่แล้วมาถาม AI
- ช่วยสรุปข้อมูลจากไฟล์ Excel อันนี้ระวังไม่โยน sensitive data ลงไปให้ AI วิเคราะห์ เพราะอาจจะเสี่ยงข้อมูลหลุดได้
- ข่วยสร้างแบบทดสอบ อันนี้ดี เหมาะกับคุณครู บอกว่านักเรียนทำได้กี่คะแนน ข้อไหนถูกผิด

- ช่วยเขียนแผนธุรกิจ
- ช่วยงานด้านไอที ตัวอย่างคือช่วยสร้างเว็บขายของออนไลน์
- ช่วยสร้างภาพ และเขียน Job Description จนประกอบร่างเป็นโปสเตอร์รับสมัครงาน
นอกจากใช้งานด้วยการพิมพ์แล้ว ยังคุยด้วยเสียงได้ เช่น ช่วยเป็นล่ามแปลภาษาให้หน่อย
ตัว Microsoft Copilot เขาอยู่กับ product ต่าง ๆ ใน Microsoft เช่น ช่วยสรุปการประชุมบน Microsoft Team, การสรุป email และร่าง email บน Outlook

สรุป: AI ส่งผลให้การทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำงานได้เร็วขึ้น ส่งผลดีต่อทีมในการหาข้อมูลก่อนไปเจอทีม และองค์กรได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะได้งานมากขึ้น ขับเคลื่อนอะไรได้มากขึ้น อีกทั้ง AI ทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ มีไอเดียอยากทำอะไรหลายอย่าง มี AI ช่วยทำภาพ ทำเสียง ทำเพลงให้เรา มาเสริมไอเดียและจุดประกายบางอย่าง เป็นจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้ให้เราทำอะไรได้เยอะ
การปรับแต่งรูปภาพโดยใช้ Microsoft Designer
เราสามารถสร้างภาพ หรือแก้ไขภาพ ผ่าน Microsoft Designer ได้ ใช้งานง่ายมาก ไป Create an image พิมพ์ภาพที่เราต้องการ แล้วเลือกขนาดรูป (มีแค่ 3 แบบ คือ square, แนวตั้ง, แนวนอน) เดือนนึงได้ฟรี 15 เครดิต โดยเสียค่าสั่ง AI เจนรูปครั้งละ 1 เครดิตนะ

ผลงานจากการลองใช้ เลยเอาน้องมาเป็นกราฟฟิคของ content นี้

และทุกครั้งที่ใช้ AI ในการแก้ไขรูป ก็โดนไปครั้งละ 1 เครดิตจ้า

ภาพที่ได้จาก AI เป็นลิขสิทธิ์ของใคร? ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ของ AI แต่ไม่มีลิขสิทธิ์ และไม่เป็นสิขสิทธิ์ของใคร เราสามารถเอาไปใช้งานได้ ไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
แต่ตอนเจนรูปก็ต้องระวังว่าอย่าไปตรงกับของที่มีลิขสิทธิ์นะ
ข้อควรระวังในการใช้ปัญญาประดิษฐ์
- Hallucination: AI หลอน เช่น ขอแหล่งอ้างอิง แต่ให้ url มามั่ว
- Double-check: ดังนั้นเราต้องตรวจซํ้าเพื่อความมั่นใจ เพราะเราเป็นคนรับผิดชอบความถูกต้องของข้อมูล
- Bias หรืออคติ เช่น เราให้ข้อมูลเขาเยอะเกินไปจนเกิดการชี้นำ
- Data Privacy: เรื่องนี้สำคัญมาก ๆ เรื่องความเป็นส่วนตัว ข้อมูลความลับ ไม่ควรโยนเข้าไปคุยกับ AI เพราะอาจจะหลุดไปอยู่กับคนอื่นก็ได้
ถ้าเขาใส่ข้อมูลที่เราใช้ขององค์กรลงไป ความปลอดภัยของข้อมูลจะเป็นยังไง?
แน่นอนว่าเราถูกปลูกฝังจากทุกท่านที่ได้ฟังมา และบริษัทเรา ว่า ห้ามใส่ข้อมูลพวกนี้ลงไป เพราะเสี่ยงข้อมูลหลุดไปเทรนต่อที่อื่นได้ บางองค์กรเขาก็ให้ความสำคัญเรื่อง privacy & privacy มากกกก บางตัวเราไม่สามารถใช้ทำงานได้ แต่แน่นอนว่ามีสิ่งนึงที่ตรงกับที่ทีม IT Sec ที่เราบอกว่าคือเรื่อง Copilot ตัวข้อมูลจะไม่ถูกนำไปเทรน AI ต่อ
วันนี้ได้รู้เพิ่มเติมว่าเป็นตัว Microsoft 365 Copilot Chat ที่ใช้งานฟรีด้วยเมลล์บริษัท และมีความปลอดภัยด้วย feature Enterprise Data Protection
แล้วคนธรรมดาตั้งค่าความปลอดภัยที่ตรงไหน?
กดที่รูป avatar ของเรา แล้วกดที่ชื่อ accout เรา แล้วจิ้มไปที่ Privacy แล้วปิด Model training on text หรือภาษาไทยคือ การฝึกอบรมแบบจำลองกับข้อความ

บทความเกี่ยวกับ AI
🔵 ความรู้พื้นฐานที่ทำให้เราใช้ AI เป็น

🔵 รีวิวคอร์ส AI

🔵 อันนี้แบบมือใหม่เอา AI ไปใช้ในทางธุรกิจยังไง

🔵 use case การนำ AI ไปใช้ในด้านธุรกิจแบบจริง ๆ

🔵 สอนใช้ Suno AI ทำเพลง

ติดตามข่าวสารตามช่องทางต่าง ๆ และทุกช่องทางโดเนทกันไว้ที่นี่เลย แนะนำให้ใช้ tipme เน้อ ผ่าน promptpay ได้เต็มไม่หักจ้า
ติดตามข่าวสารแบบไว ๆ มาที่ Twitter เลย บางอย่างไม่มีในบล็อก และหน้าเพจนะ
สวัสดีจ้า ฝากเนื้อฝากตัวกับชาวทวิตเตอร์ด้วยน้าา
— Minseo | Stocker DAO (@mikkipastel) August 24, 2020